วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2559

นี่หรือนิพพาน ครั้งที่ 05 เห็นความไม่เที่ยงของสรรพสิ่ง


2558-10-10 นี่หรือนิพพาน ครั้งที่ 05
เห็นความไม่เที่ยงของสรรพสิ่ง
วันที่ 10 ตุลาคม 2558 ทุกวันที่เราตื่นขึ้นมา ล้วนมีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย ในแต่ละวัน เหตุที่เราพานพบประสบเจอ สิ่งต่างๆ มากมาย มีทั้งความพอใจ และไม่พอใจ สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นวันแล้ววันเล่า พอใจ ไม่พอใจ เป็นอย่างนี้วันแล้ววันเล่า
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ บางทีมันก็น่าภิรมย์ น่ายินดี บางทีมันก็น่าเบื่อหน่าย อยากไปซะให้พ้นๆ อารมณ์แต่ละวันที่เกิดขึ้น เอาแน่นอนไม่ได้เลย ไม่ได้เหมือนกันทุกวันเลย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย หมุนเปลี่ยนสลับกันอยู่อย่างนี้ ขึ้นๆ ลงๆ ดีใจ เสียใจ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นมากมายในแต่ละวัน หน้าที่การงาน การทำมาหากิน เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ดูแลครอบครัว เลี้ยงดูบริวาร สิ่งต่างๆ เหล่านี้ มีแต่ความเหน็ดเหนื่อย ต้องใช้ความพยายามและอดทน ต่อสู้ชีวิตเพื่อให้รอด เพื่อให้มีชีวิตรอดอยู่ได้ ทั้งตัวเองและก็เหล่าบริวารของเราเอง
ต้องเลี้ยงร่างกายนี้ ให้มันได้กิน ให้มันได้อาบ ให้มันได้ชำระล้างสิ่งสกปรก ไม่เว้นแต่ละวัน เดี๋ยวก็หิว เดี๋ยวก็อิ่ม เดี๋ยวก็ปวดท้อง เดี๋ยวก็ปวดหัว มีความเจ็บป่วยเป็นธรรมดาจริงๆ มีใครบ้างที่พ้นจากความเจ็บป่วยไปได้ มีบ้างมั้ย มีใครบนโลกใบนี้ ที่ประกาศออกมาว่า ฉันไม่เคยป่วยเลย มีบ้างมั้ย ฉันไม่เคยเจ็บเลย มีบ้างมั้ย ฉันไม่เคยเสียใจเลย มีมั้ย ฉันไม่เคยมีความทุกข์เลย มีบ้างมั้ย
ลองคิดดูซิว่า เราต้องใช้ความอดทนกันขนาดไหน เพื่อให้ผ่านไปได้แต่ละวัน เพื่อให้พ้นไปในแต่ละวัน คิดแล้วมันก็ยิ่งเศร้าใจ เป็นเรื่องที่น่าเศร้า ไม่เห็นจะน่ายินดีตรงไหน กับการที่ต้องมา เกิด แก่ และก็เจ็บป่วยอย่างนี้ จนพวกเราเห็นว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกอะไร แต่ผู้ที่เขามีปัญญามองเห็นความจริง มันเป็นสิ่งที่น่าขยะแขยงจริงๆ กับการที่ต้องเกิดมามีร่างกายนี้ ต้องมาเจ็บมาป่วย ต้องทำมาหากินเลี้ยงมัน ต้องชำระล้างสิ่งสกปรกโสโครก ที่เกิดในแต่ละวันแต่ละวัน ให้ร่างกายนี้มันอยู่ได้ เราต้องตกเป็นทาสของมัน มันเป็นที่คุมขังของเราอย่างดี ต้องปรนเปรอมัน เลี้ยงดูมัน เอาใจใส่มัน ทำความสะอาดแล้ว ทำแล้วก็ทำอีก เดี๋ยวก็สกปรกอีก เดี๋ยวก็ต้องทำความสะอาดอีก มีความทุกข์ทรมานไม่เว้นแต่ละวัน
ก็เพราะร่างกายนี้แหละ มันเป็นสิ่งที่ผูกเราเอาไว้ในภพนี้ ถ้าเราหลงรักหลงใคร่ชอบพอยินดีในมัน มันก็จะเป็นกับดักผูกเราไว้ในภพ ให้เราเวียนตายเวียนเกิด ใช้สอยร่างกายไปเรื่อยๆ ร่างกายใหม่ก็เกิดขึ้นมา ก็ใช้สอยกันไป ตายไปก็ไปเกิดอีก ก็ใช้สอยกันไป
เกิดมากี่ทีกี่ที มันก็ไอ้เน่าเหม็นเหมือนเดิมนี่แหละ ไม่เห็นจะใหม่ขึ้นมาจากตรงไหนเลย อุดมไปด้วยสิ่งปฏิกูลทั้งหลายเต็มไปหมด คอยสร้างปัญหาให้เราไม่เว้นแต่ละวัน เหม็นเคล้าคลุ้งไปหมด ต้องทำความสะอาดอีกแล้ว เผลอหน่อยเดียวสกปรกอีกแล้ว
ร่างกายนี้เป็นภาระ เป็นรังของโรค เต็มไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บสารพัด เชื้อโรคมากมายคอยกัดกิน ให้เราได้รับความทุกข์ทรมาน เจ็บป่วยสารพัด ก็เพราะอาศัยเรามีร่างกายนี้แหละลูกเอ๊ย
ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีอะไรเที่ยงแท้สักอย่าง ล้มๆ ลุกๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ถ้าเราได้พิจารณาดีๆ แล้วละก็ เราจะเห็นมันตามความเป็นจริง ไม่มีอะไรน่ายินดีสักอย่าง สุขทุกข์ ก็ไม่ใช่เรื่องน่ายินดี ไม่ว่าจะเป็นความสุขทางใจก็เถอะ มีขึ้นได้ มันก็ผ่านไปได้ อยู่กับเราไม่นานเลย ความสุขอันจอมปลอม ที่เธอทุกคนล้วนเสาะแสวงหากัน หาความสุขจอมปลอมบนโลกใบนี้ วิ่งเสาะหากัน ตั้งแต่เกิดจนตาย ตายแล้วก็เกิดมาใหม่อีก แล้วก็ตายลงไปอีก เพื่อเสาะแสวงหาความสุข มาบำรุงบำเรอร่างกายอันเน่าเปื่อยนี้ ที่มันพร้อมจะผุพังลงไป ในวันใดวันหนึ่ง
ร่างกายนี้ อาศัยลมหายใจเป็นหลัก หายใจเข้า หายใจออก หายใจอยู่อย่างเนี้ย ตั้งแต่เกิดจนตาย วันละไม่รู้ เท่าไหร่ เห็นแล้วมันน่าเวทนาจริงๆ ลมหายใจก็ไม่เที่ยง ร่างกายนี้ก็ยิ่งไม่เที่ยง มันพังพาบไปได้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง หยุดหายใจเราก็ตาย มีชีวิตอยู่ ก็อาศัยลมหายใจนี่แหละ เป็นเครื่องหล่อเลี้ยง ให้ร่างกายนี้สามารถตั้งอยู่ได้ ถ้าเราหายใจไม่ได้ละก็ ความตายก็จะมาเยือน หายใจไม่เข้า หายใจไม่ออก ร่างกายของเธอก็จะพัง ไม่วันใดก็วันหนึ่ง วันนั้นจะต้องมาถึง พวกเธอได้เตรียมตัวเตรียมใจ คิดกันบ้างหรือเปล่า
การแสวงหาของพวกเธอนั้น ล้วนไม่มีค่าอะไรเลย ไอ้ความสุขจอมปลอมน่ะ ที่มาบำรุงบำเรอ ร่างกายที่พร้อมจะพังลงไป เมื่อใดก็ไม่รู้ มันเอาแน่นอนไม่ได้เลย พรุ่งนี้เราอาจจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ได้ อาจจะไม่ได้หายใจแล้วก็ได้ มันแน่นอนที่ไหนล่ะ ไม่มีอะไรแน่นอนเลยสักอย่าง ร่างกายของเราเองแท้ๆ เรายังบังคับบัญชา สั่งให้เป็นโน่นเป็นนี่ยังไม่ได้เลย มันเสื่อมไปตามกาล มันพร้อมที่จะหมดลมหายใจลงไป ก็ไม่วันใดก็วันหนึ่ง เราไม่อาจจะยื้อมันได้เลย เธออยู่กับฉันนานๆ นะลมหายใจ ร่างกายนี้อย่าเน่าเปื่อยผุพังลงไปนะ อย่าแก่นะ อย่าตายนะ คำอ้อนวอนของเธอนั้น ช่างไร้ค่าสิ้นดี
การแสวงหาความสุขของเธอบนโลกใบนี้ ไม่มีประโยชน์อะไรเลยลูกรัก เธอต้องแลกมากับน้ำตา ความเหน็ดเหนื่อย ความเสียใจ ความทุกข์แสนสาหัส เพื่อแลกความสุขที่เธอหามาได้ เพื่อปรนเปรอร่างกายที่พร้อมจะพังลงไปได้ตลอดเวลาเลย เมื่อใดความตายมาถึง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอหามา ก็ต้องทิ้งไว้ยังโลกใบนี้แหละลูกรัก เธอจะเอาอะไรไปได้เล่า สมบัติที่เธอรัก หวงแหนนักหวงแหนหนา เธอจะขนมันไปได้มั้ย ฉันมองไม่เห็นทางเลย ว่าเธอจะเอาอะไรมันไปได้บ้าง สิ่งที่ติดตัวเธอไปได้ ไม่ใช่สมบัติพัสถานที่เธอหามาเลย ไม่ใช่ลูกของเธอที่เธอรัก ไม่ใช่พ่อแม่ที่เธอรัก ไม่ใช่สิ่งใดๆ เลยที่เธอรัก ที่เธอจะหอบหิ้วมันไปได้ กับชีวิตหลังความตาย เธอเอาไปไม่ได้สักอย่างเลยลูกรัก
สิ่งที่จะติดตัวเธอไปนั้น คือความดีและความชั่ว ที่เธอได้ทำเอาไว้ คือบุญคือบาป ที่เธอได้สร้างมันเอาไว้บนโลกใบนี้ มันพร้อมจะตามเธอไป เธอไปเกิดที่ไหนมันก็จะไปด้วย มันเกาะเหมือนเงาตามติดตัว ถึงเธอไปมีร่างกายอันใหม่ มันก็พร้อมที่จะไปส่งผล ถ้าโชคดีทำบุญไว้มาก สร้างความดีไว้เยอะ ก็นับว่าเป็นโชคดีของเธอ แต่ยังไงซะ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ในภพใหม่ก็ย่อมมีแก่เธออยู่ดี เธอจะหนีมันไปไม่พ้นเลย ตราบใดที่เธอยังแสวงหาไม่สิ้นสุด ยังไม่หยุดดูตัวเอง ยังไม่หยุดพิจารณาตัวเอง ยังไม่หยุดใช้สติปัญญา เข้าไปดูตามความเป็นจริง เห็นความไม่เที่ยงของสรรพสิ่ง เห็นความไม่เที่ยงของร่างกายของเธอ เห็นความไม่เที่ยงของสิ่งที่เธอหามาได้ ล้วนไร้ค่าสิ้นดีเลยลูกรัก มันไม่ได้มีค่าควรอะไรกับเราเลย
ชีวิตคนเราเนี่ย มันอยู่กันนานซะที่ไหนล่ะ เผลอแผล็บก็ตายจากกันไปแล้ว คนนี้ก็ไปแล้ว จากเราไป คนโน้นก็ได้ยินข่าว จากไปอีกแล้ว เคยย้อนมาดูตัวเองบ้างมั้ยล่ะ ว่าเราเนี่ย จะเป็นรายต่อไปมั้ย หรือพวกเจ้ายังประมาทกันอยู่ ยังหากินกันไปวันๆ แสวงหาความร่ำรวยกันไปวันๆ หารางวัลชีวิต รางวัลชีวิตที่เธอทั้งหลายแสวงหากันนั้น เธอเอามันไปไม่ได้สักอย่างเลยลูกรักเอ๊ย
เธอจงมาคิดดูใหม่ได้แล้ว อะไรเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ในการเกิดมาเป็นคนของเธอ ในชาตินี้ เธอจะทำอะไรให้มันยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ ให้ถูกจารึกเลย ให้คนทั้งหลายกล่าวขาน ไม่อาจที่จะลืมเธอได้เลย คิดดูซิ อะไรที่เราพอจะช่วยเหลือได้ ช่วยเหลือเกื้อกูลสังคมน่ะลูก ช่วยเหลือคนหมู่มาก ช่วยเหลือคนที่ด้อยโอกาสกว่าเรา เมื่อเรามี เราก็แบ่งปัน อนุเคราะห์ แก่สัตว์ผู้ยากทั้งหลาย
ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์เดรัจฉาน ที่อยู่รอบตัวเราก็ดี ล้วนเป็นบริวารที่ตามกันมาทั้งนั้น เกิดในฐานะตามบุญและบาปที่ได้สร้างไว้ ทำดีก็เกิดเป็นคน ทำชั่วมากๆ ก็กลายเป็นสัตว์เดรัจฉาน ได้รับทุกข์ได้รับโทษ ต้องทนอยู่กับความหิว อยากกินสิ่งอะไรก็ไม่ได้กิน ต้องอาศัยคนสงเคราะห์ให้ อาหารที่ได้แต่ละมื้อ ก็ลำบากยากเข็ญ ไม่อาจจะเรียกร้องตามใจได้ มีอะไรก็ต้องกินลงท้อง เพื่อยังความหิว ไม่ให้มันเกิดขึ้น สัตว์เดรัจฉานก็ทำได้แค่นั้น มันต้องทนหิว พูดก็ไม่ได้ พูดคนก็ฟังภาษามันไม่รู้เรื่อง มันจะบอกว่ามันหิวๆๆ ขออะไรกินหน่อย มันก็พูดกับเราไม่รู้เรื่อง
ชีวิตของสัตว์เหล่านั้น ล้วนอาศัย บุญและบาป เป็นตัวตบแต่ง ให้สัตว์นี้เกิดต่างกัน ชั้นวรรณะต่างกัน ผิวพรรณต่างกัน สติปัญญาต่างกัน ต่างกันที่บุญและบาปที่สร้างไว้ ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่นี่แหละลูกเอ๊ย ถ้าตายไปแล้วจะไปสร้างจากตรงไหน โอกาสก็หมดไปแล้ว
เราตื่นกันได้แล้ว มองให้เห็นสัจจะธรรมความจริงกันได้แล้ว กลับมาคิดทบทวนกันใหม่ ว่าชีวิตหนึ่งที่มีชีวิต เป็นคนเนี่ย โอกาสดีขนาดไหนแล้ว จะทำอะไรให้สำเร็จไม่ใช่เรื่องยากเลย จะสร้างความดีอะไรสักอย่าง ถ้าเรามีความตั้งใจจริง มีจิตใจที่ตั้งมั่น ปรารถนาให้เกิดขึ้นแล้วละก็ ไม่มีสิ่งใดที่มนุษย์ทำไม่ได้ เกิดมาชาติหนึ่ง จงใช้ชีวิตของเจ้า ให้มีค่าสูงสุดเลยลูกรัก ให้มันถูกจารึกตราตรึงลงไปในโลกใบนี้ ว่าเธอเกิดมาแล้วได้ทำประโยชน์
สิ่งทั้งหลายทั้งปวง ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน ชีวิตไม่เที่ยง ความตายเป็นของเที่ยงแท้ ทุกคนล้วนเดินไป สู่ความตาย มีความตายเป็นที่หมาย เป็นจุดจบของชีวิต ไม่มีใครรอดพ้นไปได้ แบกกันไปได้ ด้วยบุญและบาปที่ได้สร้างสมไว้ อย่างอื่นเอาไปไม่ได้เลย คนที่รักก็หอบหิ้วเอาไปไม่ได้ ทรัพย์สินเงินทอง บ้านที่ดิน สิ่งที่หามาได้ด้วยความเหนื่อยยาก เธอก็เอามันไปไม่ได้สักอย่างเลย
ตื่นได้แล้วลูกรักเอ๋ย ตื่นเถิด ตื่นเถิด ตื่นเถิด มีสติได้แล้ว มองมันให้ทะลุปรุโปร่ง ให้รู้ตามความเป็นจริงเลย ไม่ว่าสิ่งใดๆ บนโลกใบนี้ ไม่ใช่ที่พึ่งของเธอเลยสักอย่าง เพราะมันมีความเสื่อมสลายลงไปในทุกสิ่งเลย เสื่อมสลายไปตามกาล เวลาที่ผ่านไปมันก็เสื่อมไปเรื่อย ไม่มีอะไรตั้งอยู่นานเลย มันต้องจากเธอไป ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
คนที่เรารัก คนที่เราชอบ คนที่เราหวงแหน ทรัพย์สินที่เรารัก ทรัพย์สินที่เราหามาได้ด้วยความเหนื่อยยาก ทรัพย์สินที่เราหวงแหนนักหวงแหนหนา ไม่ยอมแจกจ่ายช่วยเหลือเกื้อกูล หรือให้ใครเลย กอดรัดฟัดเหวี่ยงมันเอาไว้คนเดียว เสียดาย เสียดาย เสียดาย ชีวิตของเธอก็ไร้ค่าสิ้นดี เกิดมาแล้วไม่ได้เป็นประโยชน์ ไม่ได้มีประโยชน์ต่อประเทศชาติ ไม่ได้มีประโยชน์ต่อสังคม ไม่ได้มีประโยชน์ต่อสัตว์โลกด้วยกันเลย เป็นชีวิตที่ไร้ค่าจริงๆ ช่างเป็นชีวิตที่ไร้ค่าจริงๆ เลย
เธอจงรู้ไว้นะว่า ความตายเนี่ย เป็นของที่เราหนีมันไม่พ้น เราจะต้องตายกันได้ทุกเวลาเลย ไม่วันใดก็วันหนึ่ง เราไม่อาจที่จะคาดเดาได้ ว่าความตายจะมาถึงเราเมื่อไหร่ แต่สิ่งที่เราทำได้ก็คือ ทำตัวเองให้มีค่าลูกรัก ให้เป็นประโยชน์ต่อเพื่อนร่วมชาติ เป็นประโยชน์ต่อคนอื่น ช่วยเหลือ อนุเคราะห์เกื้อกูล ให้ความเมตตาปราณีซึ่งกันและกัน ไม่พูดจาทำลายกัน ไม่ทำร้ายกัน ไม่เอาเปรียบกัน สิ่งเหล่านี้แหละ จะเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งในการเกิดมาทั้งทีของเธอ การมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ของเธอ จะเป็นชีวิตที่มีค่า
ขอฝากเธอไว้เพียงเท่านี้ ให้เธอได้มีปัญญา พิจารณาไตร่ตรอง สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน มีอะไรน่าภิรมย์มั่ง มีอะไรน่ายินดีมั่ง มองมันให้ลึกซึ้ง มองมันให้ถึงแก่นแท้ความจริง  ขอให้เธอทั้งหลาย จงมีสติคิดได้ ก่อนที่ชีวิตของเธอ จะก้าวสู่จุดหมาย คือความตาย ที่กำลังเดินทางมาหาเธอทั้งหลาย มันรอเธออยู่ รอทุกคนเลย ไม่มีเว้น ไม่ว่าจะรวย ไม่ว่าจะจน ยาจกเข็ญใจก็ตาย มหาเศรษฐีก็ต้องตาย เงินไม่อาจยื้อไว้ได้ ความตายไม่มีใครต่อรองได้ 
สิ่งที่เหลือไว้ คือความดีและความชั่ว
สิ่งที่ติดตัวไปได้ คือบุญและบาป
ขอเธอทั้งหลาย จงมีจิตอันหลุดพ้นเถิด ด้วยความปรารถนาดี ด้วยความปรารถนาดีต่อเธอทั้งหลาย  ขอเธอทั้งหลาย จงมีจิตอันหลุดพ้นเถิด หลุดพ้นจากเครื่องเกาะเกี่ยวทั้งปวง หลุดพ้นจากเครื่องร้อยรัดของชีวิตทั้งปวง มองเห็นสัจจะธรรมตามความเป็นจริง มองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่เที่ยง ไม่มีอะไรเป็นเรา เป็นของเราเลย
ความตายเป็นของเที่ยง ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง
ขอเจริญพร เจริญธรรม ขอท่านทั้งหลายจงมีความสุขสันต์ จงมีจิตอันเป็นกุศล จงเข้าถึงมรรคแลผล จงเป็นผู้มีปัญญา เข้าถึงสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง ไม่หลอกไม่ลวง  ขอเธอทั้งหลายจงเป็นผู้พ้นจากสังสารวัฏนี้  ขอเธอทั้งหลายจงเป็นผู้พ้นแล้วจากการเวียนตายเวียนเกิด  ขอเธอทั้งหลายจงเป็นผู้พบทางอันเกษมเถิด เจริญพร เจริญธรรม


นี่ ห รื อ นิ พ พ า น
คลิกอ่านตามลิ้งด้านล่าง
01 เรื่อง ของ ธ า ตุ (คลิกอ่าน)
02 บุญคุณที่ต้องทดแทน (คลิกอ่าน)
03 ความหลงใหลในสิ่งต่างๆ ล้วนนำมาซึ่งทุกข์ (คลิกอ่าน)
04 ชีวิตที่สูญเปล่า (คลิกอ่าน)
05 เห็นความไม่เที่ยงของสรรพสิ่ง (คลิกอ่าน)
06 สิ่งทั้งหลายทั้งปวงนำมาซึ่งทุกข์ (คลิกอ่าน)
07 เรื่องของ ขั น ธ์ ห้ า (คลิกอ่าน)
08 เรื่อง นี่หรือนิพพาน (คลิกอ่าน)
09 ธรรมมะจากหลวงปู่ ... (คลิกอ่าน)
10 สุญญตาธรรม (คลิกอ่าน)
11 ธรรมธาตุทั้งหลายทั้งปวง อันเดียวกัน สิ่งเดียวกัน ต่างแค่ความเห็น (คลิกอ่าน)

หนังสือ นี่หรือนิพพาน 29-01-2560 A5.PDF
(ต้นฉบับส่งโรงพิมพ์ ขนาด-เล่มเล็ก) (5.83 X 8.27 นิ้ว)



ไม่มีความคิดเห็น: