วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2559

นี่หรือนิพพาน ครั้งที่ 02 บุญคุณที่ต้องทดแทน



2558-10-0นี่หรือนิพพาน ครั้งที่ 02
บุญคุณที่ต้องทดแทน
วันนี้เป็นวันที่ 5 ตุลาคม 2558 ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ ไม่มีอะไรเที่ยง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็เสื่อมสลายไปในที่สุด ตัวเราก็ดี ตัวของคนอื่นๆ ก็ดี ทุกคนล้วนแต่ เสื่อมสลายลงไปทุกวัน จากความเป็นเด็ก เข้าสู่ความเป็นหนุ่มสาว ก้าวเข้าสู่วัยเป็นผู้ใหญ่ ก้าวเข้าสู่วัยชรา สิ่งต่างๆ ล้วนเกิดขึ้นเป็นกฎของธรรมดา ไม่มีบุคคลใดสามารถล่วงพ้นจากกฎของธรรมดาไปได้
มันเป็นกฎของโลก สัตว์โลกที่เกิดมาในโลกใบนี้ ล้วนต้องพบกับชะตากรรมอันเดียวกัน มีเกิดมีตาย มีตายมีเกิด เป็นวัฏจักรหมุนเวียนไม่มีวันสิ้นสุดเลย มีอย่างเดียวเท่านั้นที่จะทำให้วัฏจักรเหล่านี้สิ้นสุดลงได้ ก็คือบุคคลใดเห็นภัยที่เกิดขึ้นจากการ เกิด แก่ เจ็บ ตายนี้ เขาก็จะดิ้นรนเสาะหาสิ่งที่ไม่ต้องเกิด ไม่ต้องแก่ ไม่ต้องเจ็บ และไม่ต้องตายอีก มันเป็นสิ่งที่บุคคลทั้งหลายมีน้อยนักที่จะคิดได้อย่างนี้
ท่านทั้งหลายเอ๋ย ถามตัวเองบ้างหรือเปล่าว่า เราเหนื่อยกันมาพอแล้วหรือยัง กับการที่ต้อง เกิด แก่ เจ็บ ตาย อยู่อย่างนี้ ความทุกข์ทรมาน ความเศร้าโศกเสียใจ ความกดขี่ข่มเหง ซึ่งกันและกัน ความเอารัดเอาเปรียบ ความเข้าทำลาย ซึ่งกันและกัน ไม่มีความสามัคคีปรองดอง จะว่าแต่อยู่ในสังคมเลย ความสามัคคีปรองดอง แม้ในครอบครัวเดียวกัน เกิดตามกันมาแท้ๆ ก็ยังหาไม่มีเลย
ลูกรักทั้งหลายเอ๋ย มันพอหรือยังล่ะกับชีวิตอย่างนี้ ความเจ็บไข้อย่างนี้ ความเจ็บปวดรวดร้าวอย่างนี้ ถึงเวลาแล้วหรือยังล่ะลูกรักเอ๋ย สนุกสนานกันมาพอหรือยัง สิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายลงมาทำหน้าที่ ฉุดช่วยท่านทั้งหลาย ลูกรักทั้งหลาย ให้มีสติคิดได้ ได้เข้าถึง ได้ตระหนักถึง ภัยที่กำลังจะเกิดขึ้น ครั้งยิ่งใหญ่เลยลูกรักเอ๋ย จะทำลายชีวิตมากมาย ตะเกียกตะกายหนีตาย อย่างน่าเวทนานัก
ผู้ขาดศีลขาดธรรม ไม่สนใจใยดี ต่อคำเตือนของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่ได้ลงมาทำหน้าที่ ป่าวประกาศให้เจ้าทั้งหลายนั้นมีสติคิดได้ ก็เปล่าเลย เจ้าทั้งหลายกลับมองเห็นว่า เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะมีได้ ไม่น่าที่จะเกิดขึ้นได้เลย ถึงเวลาแล้วหรือยังลูกรักเอ๋ย มีสติกันได้แล้ว ใครจะยอมเสียเวลาเปล่ากับพวกเจ้าอีก ถ้าเจ้ายังดื้อรั้นอยู่กินกันไปวันๆ ไม่ไยดีต่อคำเตือนของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลงมาทำหน้าที่ฉุดช่วยเวไนยสัตว์ คือลูกรักทั้งหลายเนี่ย ให้กลับขึ้นไป ไม่ต้องไปทุกข์ทรมาน เกิด แก่ เจ็บ ตายอีก เพราะภัยพิบัติครั้งนี้กำลังจะเกิดขึ้น ช่างรุนแรงนัก บุคคลผู้ขาดสติ จะหวีดร้องอย่างทุรนทุราย ถึงขนาดเสียสติ
บุคคลใดผู้มีศีลมีธรรม หมั่นอบรมจิตอบรมใจ เข้าถึงคำเตือนของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผู้หวังดีผู้มาทำหน้าที่ เรียกร้อง ให้พวกเจ้าทั้งหลาย กลับมาทำความดีชดเชยสิ่งที่ทำไปแล้ว ในความผิดบาปทั้งหลาย ความผิดต่อพ่อแม่ก็ดี ความผิดต่อพี่น้องร่วมสายโลหิตของเจ้าก็ดี โทษของมันนั้นจะย้อนกลับมาเล่นงานเจ้าเอง เป็นความผิดที่ให้อภัยไม่ได้ ไหนจะความผิดที่ก้าวล่วงต่อผู้อื่น ครอบครัวของผู้อื่น ติฉินนินทาว่าร้ายกันและกัน ฉันถูกเธอผิด สิ่งเหล่านี้มีแต่ถูก กับผิด ไม่ฉันผิดเธอก็ถูก ไม่ฉันถูกเธอก็ผิด เห็นแล้วมันน่าอ่อนใจนัก ความสามัคคีรักใคร่ปรองดอง ความเข้าช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน  ช่างหาไม่ได้เลย
ลูกรักทั้งหลายเอ๋ย เจ้าทั้งหลายจงหันกลับมามองดูตัวเราเองให้ดี ว่าความผิดบาปในตัวของเรานี้ วันๆ หนึ่งเราได้ทำอะไรลงไปบ้าง มองย้อนลงมาที่ตัวเราเองเนี่ยแหละลูกรัก อย่าไปโทษคนอื่นเลย ว่าเขาผิดเขาถูก มองย้อนมาที่ตัวเราเนี่ยแหละ วันหนึ่งเราได้ทำบาปอะไรลงไปบ้าง การเถียงพ่อแม่ก็ดี ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณอย่างยิ่ง ที่ให้กายสังขารแก่ลูกรักทั้งหลาย ถ้าไม่มีพ่อไม่มีแม่เป็นผู้ให้กำเนิดเจ้ามา เจ้าจะมีตัวตนขึ้นมาได้อย่างไร เจ้าไม่ต้องไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน ไม่ต้องไปเกิดในที่ลำบากลำบากเหรอลูกรักเอ๋ย
การเป็นมนุษย์นี้นับว่าประเสริฐแล้ว การเกิดเป็นคนนี้ ยากนัก มีน้อยนัก ที่จะได้เกิดเป็นคน ส่วนใหญ่ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นมด เป็นปลวก มีจำนวนมากมหาศาล ไหนจะเกิดเป็นเชื้อโรค มีจำนวนมหาศาลนัก เป็นสิ่งที่เจ้าทั้งหลายก็ได้เห็นอยู่ สามารถเห็นได้ว่าสิ่งเหล่านี้มีอยู่ ถ้าเปรียบเทียบกับจำนวนคนกับสัตว์เหล่านั้น มันเปรียบเทียบกันไม่ได้เลยลูกรัก สัตว์เดรัจฉานเกิดมามากมายก่ายกอง มีทุกประเภท ที่เลื้อยคลานก็มี มีสองขาก็มี มีปีกก็มี มากมายก่ายกอง เปรียบเทียบกับจำนวนของคน มันเปรียบกันไม่ได้เลย
การเกิดเป็นคนหรือมนุษย์นั้น จึงยากยิ่งนะลูกรักเอ๋ย ถ้าไม่มีพ่อมีแม่ผู้ให้กำเนิดเราแล้ว เราจะไปเกิดมาจากตรงไหนล่ะ จะมีความเป็นคนจากตรงไหนล่ะ การก้าวล่วงก็ดี ด่าว่า พูดจาเสียดสี ความไม่รู้จักบุญคุณ ความไม่ช่วยเหลือในการงาน ความไม่รู้จักอบรมตนให้เป็นคนดี ล้วนเป็นสิ่งที่ลูกรักทั้งหลายไม่ควรได้จะกระทำเลย ต่อพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเรามา เพราะท่านเป็นผู้มีบุญคุณยิ่ง ไม่มีใครรักเราเท่าพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดอีกแล้ว เป็นความรักอันบริสุทธิ์ ห่วงใย ทะนุถนอม ท่านทำได้ทุกอย่างเพื่อลูกรักทั้งหลาย
สิ่งที่ลูกรักทั้งหลาย กำลังหลงเพลิดเพลินอยู่กับสิ่งต่างๆ ความเพลิดเพลินในการมีชีวิต การดำรงชีวิต โดยลืมมองคุณงามความดีของพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด ต่อให้เราทำดีกับบุคคลมากมาย หรือช่วยเหลือประเทศชาติ ถ้ามองข้ามการตอบแทนบุญคุณ ที่บิดามารดาให้เราแล้วละก็ สิ่งเหล่านั้นล้วนไม่มีค่าเลยลูกรัก เพราะสิ่งที่เราจะตอบแทนเป็นอันดับแรกนั้น ก็คือพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเราเนี่ยแหละ มีความเห็นถูกกันได้แล้ว เรากำลังหลงทาง พวกลูกรักทั้งหลายกำลังหลงทางนะลูก
สิ่งที่เราควรทำ แต่เรากลับมองข้าม ไปเห็นสิ่งอื่นสำคัญยิ่งกว่า ลูกรักทั้งหลายจะหาความเจริญจากตรงไหนได้เล่า ในสังคมที่แก่งแย่งชิงดีกันทุกวันนี้ ก็เพราะตัวต่างคนต่างเอาประโยชน์ของตนเป็นหลัก แย่งกัน สู้กัน ทำลายกัน ทั้งต่อหน้าและลับหลัง เพื่อนก็ไม่ใช่เพื่อน พี่น้องก็มองเป็นไม่ใช่พี่น้อง มันคืออะไรกันล่ะ อะไรคือสิ่งที่จะทำให้เราคิดได้สักที
สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาแล้ว เราไม่พร้อมที่จะแก้ไขละก็ มันจะหมักหมมทับถม สักวันมันจะสะท้อนกลับมาสู่ลูกรักทั้งหลาย ให้ได้รับความลำบาก ให้ได้รับความเจ็บปวด ทั้งทางร่างกายและจิตใจ จะกลับมาเป็นบทลงโทษลูกรักทั้งหลาย
จงตื่นกันได้แล้วนะลูกรักทั้งหลายเอ๊ย คนที่สำคัญยิ่งเป็นอันดับแรกเลย ที่ลูกรักทั้งหลายปฏิบัติแล้ว จะทำให้เกิดความเจริญแก่ตนเอง แก่ตัวของลูกรักเอง ก็คือการปรนนิบัติ เอาใจใส่ กตัญญู ดูแลบิดามารดา พ่อแม่ของตัวเองเนี่ยแหละ เป็นอันดับแรกเลยลูกรักเอ๋ย เป็นสิ่งที่ลูกรักจะมองข้ามไปไม่ได้เลย คนที่รักเราที่สุด คนที่ห่วงใยเราที่สุด คนที่ทะนุถนอมเราที่สุด คนที่พยายามหาให้เราทุกสิ่งทุกอย่าง แม้จะเหนื่อยยากลำบากยากแสนเข็ญเพียงใด ก็คือพ่อแม่ของเรานั่นแหละลูกรักเอ๋ย พ่อแม่ที่เลี้ยงเรามานั่นแหละ
เราเที่ยวไปแสวงหาคนรัก หาความรักจากที่อื่น เราก็ย่อมต้องผิดหวัง เพราะนั่นเป็นความรักที่ไม่ยั่งยืน ความรักที่จริงแท้แน่นอน ผู้ที่พร้อมจะสละทุกอย่างเพื่อเรานั้น ไม่พ้นไปจากพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเรามาเลย จะพ้นไปไม่ได้เลย ไม่มีใครรักเรายิ่งกว่าพ่อแม่แล้วลูกรักเอ๋ย จงกลับมามองดูตัวเราได้แล้ว ว่าเราทำอะไรให้ท่านได้ชื่นชมหรือดีใจบ้าง ทำให้ท่านมีความสุขเพียงน้อยนิด มีบ้างมั้ย หรือที่ผ่านมามีแต่ทำให้ท่านเสียน้ำตา มีแต่ความเศร้าใจที่บอกใครไม่ได้ เธอทั้งหลายจงไตร่ตรองให้ดีนะ ผู้ที่กตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดาผู้มีคุณ เขาย่อมถึงทางอันเกษมได้ เป็นผู้พ้นจากภัยทั้งปวง เป็นสิ่งที่ลูกรักทั้งหลายจะพึงกระทำได้
สรรพสิ่งล้วนไม่มีอะไรเที่ยงแท้เลย แต่ความรักที่พ่อแม่มีต่อเรานั้น ที่มีต่อลูกรักทั้งหลายนั้น เป็นความรักที่เที่ยงแท้แล้ว พวกเจ้าจะไปหาความรักที่เที่ยงแท้จากตรงไหนอีก หาให้ตายมันก็ไม่เจอ เจ้าจะต้องพบกับความผิดหวัง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากคนหนึ่งก็ไปหาอีกคนหนึ่ง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า หาตั้งแต่เกิดจนตายก็ไม่พบ เพราะคนที่รักเราที่สุดนั้นเป็นผู้อยู่ใกล้ตัวเราแค่นี้เอง แต่เราไม่เคยทำอะไรให้ท่านได้ชื่นชมหรือมีความสุขเลย
หวังว่า ลูกรักทั้งหลาย จะได้เห็นความสำคัญของบุพการีหรือบิดามารดา พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเรามา นับว่าท่านเป็นผู้มีคุณอันยิ่งใหญ่ ไม่มีอะไรมาเปรียบเทียบได้เลย จงเห็นในสิ่งนี้เถิด มันจะทำให้เจ้าได้รอดพ้น จากความทุกข์ยากลำบากทั้งหลาย เป็นสิ่งแรกที่เจ้าจะต้องตอบแทน และเป็นสิ่งแรกสุดเลย ที่เจ้าจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมความเป็นอยู่ของเจ้าทั้งหลาย คือการกลับไปดูตัวเอง สำรวจตัวเอง ว่าเราทำดีกับบิดามารดา ผู้มีคุณต่อเราแล้วหรือยัง เพียงพอแล้วหรือยัง หรือวันๆ มีแต่ทำให้ท่านห่วงใย เป็นทุกข์ ถ้าสิ่งนี้เราแก้ไขไม่ได้ หรือไม่คิดจะแก้ไขละก็ ชีวิตของเราจะมีความสุขมาจากไหนล่ะลูกรัก มันจะพบแต่ความผิดหวัง ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า การใช้ชีวิตของลูกรักก็จะผิดหวัง ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า
ผู้มีปัญญา ย่อมเห็นสิ่งที่มีค่า ที่อยู่ใกล้ตัว
ผู้ขาดปัญญา ย่อมเห็นว่าไร้ค่า ในสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว
ในสังสารวัฏนี้ ผู้ที่จะหลุดพ้นไปได้ ก็ต้องอาศัยผู้มีปัญญา กระทำในสิ่งที่ถูกที่ควร รู้ว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ สิ่งใดควรทำเป็นอันดับแรก สิ่งใดควรทำเป็นอันดับถัดๆ ไป เขามีปัญญาไตร่ตรอง บุคคลนั้นก็เป็นผู้ชนะในทุกที่ทุกสถาน เป็นผู้ใช้ชีวิตอย่างไม่สูญเปล่า
ผู้ไร้ปัญญา ไม่เคยไตร่ตรอง ในสิ่งที่ตัวเองได้กระทำอยู่ละก็ เป็นผู้หลงเพลิดเพลิน สนุกไปกับวัฏฏะสงสาร เกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิด จะไม่มีวันสิ้นสุดได้เลย หนทางที่จะรอดพ้นจากวัฏฏะสงสารนี้ได้ ก็ต้องอาศัยปัญญา ผู้มีปัญญาย่อมพ้นจากวัฏฏะสงสารได้ในที่สุด
ทรัพย์สินเงินทอง ล้วนเป็นของทำลาย เกียรติยศและชื่อเสียง
คนจะดีได้ ไม่ได้ใช่ว่ามีทรัพย์สินเงินทองมากมาย จึงจะได้ชื่อว่าเป็นคนดี
คนจะดีได้ เพราะเขาเป็นผู้มีปัญญา รู้จักว่าสิ่งใด ควรทำไม่ควรทำ มีสติไตร่ตรองระลึกอยู่ ว่าสิ่งใดควรทำ ไม่ควรทำ มีสติสำรวจตัวเอง ว่าได้ทำสิ่งใดถูก ว่าได้ทำสิ่งใดผิดไปบ้าง พร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไข
ผู้ไร้ปัญญา ก็ไม่มี ก็ไม่มีการที่จะปรับปรุงตัวเองเลย ไม่เคยแม้แต่จะคิด ใช้ชีวิตไปวันๆ สุดท้ายของชีวิตก็จบลงอย่างน่าเวทนา เกิดมาทั้งทีชีวิตไม่ได้มีค่าเลย เพราะมัวหลงเพลิดเพลินอยู่กับวัตถุ ซึ่งเป็นเครื่องทำลายจิตใจ แสวงหาแต่วัตถุภายนอก ซึ่งเป็นเครื่องทำลายจิตใจ ทำให้เราได้รับแต่ความทุกข์ เพราะวัตถุภายนอกนั้นล้วนมีความเสื่อมลงไป เสื่อมลงไปทุกวัน แรกๆ ก็ดูใหม่ดี ทำให้เราเกิดความสุขใจขึ้นมาในแรกๆ เวลาผ่านไปมันก็เริ่มเสื่อม เริ่มโทรม เริ่มชำรุด เริ่มเสียหาย สิ่งที่เราได้รับก็คือ ความเสียใจ ผิดหวัง เพราะเราไปให้ความสำคัญในวัตถุสิ่งของ มัวไปเพลิดเพลินอยู่กับวัตถุสิ่งของ เราไม่ได้สนใจเลย ว่าสิ่งใดที่เราควรจะทำยิ่งกว่า หรือให้ความสำคัญยิ่งกว่า สิ่งเหล่านี้ล้วนนำมาซึ่งทุกข์
ผู้มีทรัพย์สินเงินทองมาก ใช่ว่าจะมีความสุข เขาต้องแบกรับภาระ แบกรับสิ่งต่างๆ มากมาย เป็นความยากลำบากที่ต้องหามา และต้องพยายามที่จะรักษามันไว้ แม้จะใช้สอยก็กลัวที่มันจะหมดลง ต้องกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับมันเอาไว้ จะแบ่งปันให้ผู้อื่นก็ทำได้ยาก เป็นของรักหวงแหนที่ลูกรักทั้งหลายหลงติดอยู่ แต่บิดามารดาผู้ให้กำเนิดของลูกรักล่ะ เคยกลับมามองดูมั้ย ว่าท่านน่ะ เป็นสิ่งที่เราควรจะรัก และหวงแหนทะนุถนอมเอาไว้มั้ย หรือไอ้ทรัพย์สินเงินทองที่เราหามาได้ มากมายก่ายกอง มันมีความสำคัญยิ่งกว่ากระนั้นหรือ อันไหนที่ให้ความสุขกับเราอย่างแท้จริง อันไหนที่มันให้ความทุกข์แก่เราอย่างแท้จริง
สิ่งต่างๆ ที่ได้แสดงมาในวันนี้ เป็นเรื่องที่ลูกรักทั้งหลายนั้น พึงจะได้ตระหนักกัน โลกนี้ถ้าขาดความกตัญญู รู้บุญคุณแล้วละก็ ชีวิตจะไม่มีทางสมหวังไปได้เลย จะมีแต่ความผิดหวังร่ำไป ทำอะไรก็ไม่สำเร็จสักอย่าง จะเป็นอุปสรรคขวางกั้นเรา ตลอดกาลที่เรามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ เพราะเราเป็นผู้ไม่ตอบแทนผู้มีบุญคุณ ไม่สำนึกในผู้ที่มีพระคุณต่อเราอย่างแท้จริง
เอาล่ะลูกรักทั้งหลาย หวังว่าเจ้าทั้งหลายจะมีสติคิดได้กันสักที สิ่งใดๆ ในโลกล้วนเปรียบค่าไม่ได้เลย บิดามารดาเป็นผู้มีคุณค่าอย่างแท้จริง ต่อลูกรักทั้งหลาย ขอให้ลูกรักทั้งหลาย จงมีปัญญาไตร่ตรอง ได้เข้าถึงสิ่งที่ตัวเองกำลังกระทำอยู่ สิ่งที่ตัวเราเองกำลังใช้ชีวิตอยู่ ว่าเราได้กระทำอย่างเหมาะสมแล้วหรือยัง เราได้แทนคุณท่านแล้วหรือยัง ทำให้ท่านได้รับความสุขใจ แม้หน่อยหนึ่งได้แล้วหรือยัง
ขอเจริญพร เจริญธรรม สุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลทั้งหลาย พึงบังเกิดแก่ลูกรักทั้งหลาย ให้ประกอบด้วยปัญญาอันยิ่ง ได้เข้าถึงธรรมที่ควรรู้ ได้ประกอบธรรมที่ควรทำ ให้ท่านทั้งหลาย ลูกรักทั้งหลาย จงประสพสุข อันยิ่งเทอญ


นี่ ห รื อ นิ พ พ า น
คลิกอ่านตามลิ้งด้านล่าง
01 เรื่อง ของ ธ า ตุ (คลิกอ่าน)
02 บุญคุณที่ต้องทดแทน (คลิกอ่าน)
03 ความหลงใหลในสิ่งต่างๆ ล้วนนำมาซึ่งทุกข์ (คลิกอ่าน)
04 ชีวิตที่สูญเปล่า (คลิกอ่าน)
05 เห็นความไม่เที่ยงของสรรพสิ่ง (คลิกอ่าน)
06 สิ่งทั้งหลายทั้งปวงนำมาซึ่งทุกข์ (คลิกอ่าน)
07 เรื่องของ ขั น ธ์ ห้ า (คลิกอ่าน)
08 เรื่อง นี่หรือนิพพาน (คลิกอ่าน)
09 ธรรมมะจากหลวงปู่ ... (คลิกอ่าน)
10 สุญญตาธรรม (คลิกอ่าน)
11 ธรรมธาตุทั้งหลายทั้งปวง อันเดียวกัน สิ่งเดียวกัน ต่างแค่ความเห็น (คลิกอ่าน)

หนังสือ นี่หรือนิพพาน 29-01-2560 A5.PDF
(ต้นฉบับส่งโรงพิมพ์ ขนาด-เล่มเล็ก) (5.83 X 8.27 นิ้ว)



ไม่มีความคิดเห็น: