วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2559

นี่หรือนิพพาน ครั้งที่ 04 ชีวิตที่สูญเปล่า




2558-10-07 นี่หรือนิพพาน ครั้งที่ 04
ชีวิตที่สูญเปล่า
วันนี้เป็นวันที่ 7 ตุลาคม 2558 มีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นมากมายบนโลกใบนี้ โลกที่ลูกๆ ทั้งหลาย เกิด แก่ เจ็บ ตาย สิ่งที่ลูกๆ ทั้งหลายได้เห็นมา ตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ จนเป็นผู้ใหญ่ แล้วก็เข้าสู่วัยชรา สิ่งต่างๆ ล้วน ไม่มีอะไรเที่ยง
ขอให้ลูกรักทั้งหลาย จงทำให้แจ้งในสิ่งที่เป็นจริง ในสิ่งที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าของพวกเจ้า ให้พินิจพิจารณา ดูตามความเป็นจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ให้ความสำคัญกับสิ่งต่างๆ รอบตัวเราให้มาก มันจะเป็นครูสอนเราอย่างดี ไม่ว่าจะเรื่องการงานที่ลูกได้ทำกัน หรือประกอบอาชีพทำมาหากิน ในอาชีพต่างๆ ก็ดี ให้ลองพิจารณาดูซิว่า เราได้เบียดเบียน สิ่งใดๆ รึเปล่า ไม่ว่าจะเป็นบุคคล สัตว์ หรือสิ่งของก็ดี ที่เกิดโดยธรรมชาติ ว่าเราเนี่ย ได้เข้าไปเบียดเบียนสิ่งเหล่านั้นรึเปล่า
ขอให้ลูกรักทั้งหลาย จงใช้พินิจพิจารณา ไตร่ตรองให้รอบครอบ ดูให้แจ่มแจ้ง ให้เข้าใจ ว่าความจริงแท้ทั้งหลายแล้ว เราไม่ได้พ้นจากความเบียดเบียนไปได้เลย จะมีการกระทบกระทั่ง ต่อกันและกัน ต่อบุคคลอื่นรอบข้าง ต่อพ่อแม่ ต่อพี่ต่อน้อง ต่อผู้มีพระคุณ สิ่งทั้งหลายทั้งปวงนี้ ขอให้เจ้าได้พินิจพิจารณาให้ดี ว่าเราได้ล่วงเกินสิ่งต่างๆ ในโลกนี้ อะไรไปบ้างรึเปล่า หมั่นไตร่ตรองทุกวัน ถ้าเราได้กระทำผิดสิ่งใดไป ก็ให้รีบทบทวน เพื่อทำการแก้ไข ให้สิ่งที่ได้กระทำผิดไปนั้น ทำให้ถูกต้อง
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ถ้าเรามีความตั้งใจแล้วละก็ ลูกๆ ทั้งหลาย ก็สามารถที่จะปรับเปลี่ยนให้ตนเองนั้นดีขึ้น ไม่ว่าสิ่งใดๆ ก็แล้วแต่ ถ้าเรารู้จักที่จะพัฒนาตัวของเราเองแล้ว ไม่มีสิ่งใดที่มนุษย์ทำไม่ได้ ถ้ามีความพยายาม มีความอดทน อดกลั้น ให้ความสำคัญแล้วละก็ ย่อมสำเร็จลงได้ทุกประการ
สิ่งต่างๆ ทั้งหลายทั้งปวง ล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ความเสื่อมสลายมีอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง พวกเจ้าก็ได้เห็นกัน ตั้งแต่เกิดจนตาย ก็จะได้เห็นกันอยู่แล้วว่า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเสื่อมสลายลงไปในที่สุด จะยื้อยุดฉุดกระชาก ก็ไม่เป็นผล มีแต่ความเศร้าโศก ร่ำไห้ ร้องไห้เสียใจ ในสิ่งที่ตัวเองผิดหวัง หรือพลาดหวัง หรือสิ่งที่เรารักต้องจากเราไป ซ้ำแล้วซ้ำเล่า คนแล้วคนเล่า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วน ไม่เที่ยงเลย
ขอให้ลูกรักทั้งหลาย จงหมั่นพิจารณาความจริงตรงนี้ เพราะมันเป็นสัจจะธรรม เป็นสัจจะธรรมอันแท้จริง ในสิ่งที่พวกเราไม่อาจที่จะหลีกเลี่ยงได้ ในสิ่งที่ลูกรักไม่อาจที่จะปฏิเสธได้ ตราบใดที่ลูกรักยังต้อง เกิด แก่ เจ็บ ตาย อยู่บนโลกใบนี้แล้วละก็ ไม่มีทางที่จะหนีพ้นไปได้เลย
สังสารวัฏนั้นยาวไกล ตั้งแต่เกิดจนตาย ตายแล้วเกิด เกิดแล้วตาย ไม่รู้กี่รอบกี่รอบ สิ่งที่เราระลึกไม่ได้ แต่เป็นสิ่งที่เราสามารถเห็นได้ ว่ามีการเกิดการตายขึ้นมากมายบนโลกใบนี้ ตลอดเวลาไม่ได้ว่างเว้นเลย มีแต่การเกิดการตาย แล้วก็เกิดแล้วก็ตาย เป็นไปอยู่อย่างนี้ พวกเจ้าเคยคิดกันบ้างมั้ย เคยให้ความสำคัญกันบ้างมั้ย ว่าอะไรอะไรมันก็ยึดเอาไว้ไม่ได้ มันพลัดพรากจากเราไปในที่สุดทั้งนั้นเลย
แม้แต่พ่อแม่ที่เรารัก แม้แต่ลูกหลานเราที่เรารักใคร่ก็ดี ไม่มีใครสามารถยื้อยุดฉุดไว้ได้เลย ให้เห็นตามความเป็นจริงอย่างนี้แหละ จิตของเจ้าก็จะถอนขึ้นมาได้ สิ่งที่หมักหมมอยู่นานแสนนาน ความหลงระเริงอยู่ในวัฏฏะ ก็จะถูกถอนออกทีละนิดละนิด เพราะความเห็นแจ้งในความไม่เที่ยงในสิ่งทั้งปวง มีความพลัดพรากเป็นธรรมดา มีความเศร้าโศกเสียใจเป็นธรรมดา สิ่งเหล่านี้แหละ จะเป็นสิ่งที่จะทำให้พวกเจ้าทั้งหลาย มีสติระลึกได้ รู้จักทำตัวเอง พัฒนาตัวเอง ให้พ้นจากสิ่งเหล่านี้ ไขว่คว้าหาสิ่งที่ดีกว่า สิ่งที่ดีกว่าการต้องมานั่ง แก่ เจ็บ และตาย
มีคำสอนมากมายที่พวกเจ้าก็ได้ศึกษากันบ้าง เกี่ยวกับการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ว่ามันเป็นทุกข์ ไม่อาจที่จะล่วงจากทุกข์ไปได้เลย
ความสุขมีเพียงเล็กน้อย แต่ทุกข์มีปริมาณมาก
เป็นคำที่พระศาสดาก็ได้สอนเอาไว้ แม้ศาสดาทุกๆ พระองค์ก็ต้องตรัสเช่นเดียวกันลูกรัก เพราะมันเป็นสัจจะธรรมความจริง ที่พวกเจ้าทั้งหลายไม่อาจปฏิเสธได้เลย มันเป็นความจริงแท้แน่นอน อะไรอะไรก็ ล้วนพลัดพรากจากเราไปทั้งสิ้นเลย
จะรวยเท่าไหร่ มีเงินมากมายก่ายกอง ก็ไม่เห็นมีใครหนีพ้นความตายไปได้เลย รักษาชีวิตเอาไว้ไม่ได้เลย แม้เงินจะมาก ทรัพย์สินจะมากมาย มันก็รักษาชีวิตเอาไว้ไม่ได้ เพราะมันเป็นกฎของความเป็นธรรมดา เกิด แก่ เจ็บ และก็ต้องตายลงไปในที่สุด พวกเจ้าก็เห็นกันอยู่แล้ว ใช้สติพิจารณาเข้าลูกรัก ให้ความสำคัญกับตรงนี้ให้มาก ว่าทุกอย่างล้วนมีความพลัดพราก มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ไม่อาจอยู่กับเราได้นานเลย เหลือไว้แต่ความทรงจำที่เจ็บปวด ความทุกข์ทรมานทางใจ กระทบไปถึงโรคภัยไข้เจ็บทางกาย เพราะความเศร้าโศกเสียใจเป็นเหตุ
ลูกรักทั้งหลายเอ๊ย สิ่งต่างๆ ที่ลูกได้เห็นมาแล้ว และต่อไปภายหน้าที่ลูกจะได้เห็นต่อไปอีก ก็จะมีความคล้ายคลึงกัน ไม่ต่างกันเลย บุคคลไขว่คว้าหาความสุข ไม่มีหรอกลูกรัก มันอยู่กับเราแป๊บเดียว ไอ้ความสุขที่ลูกรักว่ามันสุขนักสุขหนา มันเจือไปด้วยความทุกข์ตลอด
มันหลอกล่อเราให้ติดกับ เหมือนกงขังสัตว์อยู่ในภพ
ถ้าเราได้สังเกตให้ดีๆ แล้วละก็ ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีอะไรเป็นเรา เป็นของเราเลย เพราะมันเสื่อมสลายลงไปในที่สุด มันต้องพังลงไป ไม่วันใดก็วันหนึ่ง จะเรียกร้องให้กลับมา ก็ไม่เป็นผล ต่อให้ร่ำรวยเงินทอง ทรัพย์สินมากมาย ก็ยื้อความตายลงไปไม่ได้
ความตายเป็นของเที่ยง แต่ชีวิตของลูกรักทั้งหลายนั้น เป็นของไม่เที่ยงเลย เพราะเราไม่อาจจะรู้ได้ ว่าเราจะต้องตายลงในวันใด บางคนไม่ทันแก่ก็ตาย ไม่ทันหนุ่มก็ตาย ไม่ทันสาวก็ตาย เกิดมาเป็นเด็กตัวเล็กๆ ก็ตาย แม้พึ่งคลอดออกมาก็ตาย ไม่มีสิ่งใดแน่เลย
ถ้าเราหวังว่า สิ่งต่างๆ จะต้องเป็นไป อย่างนั้นอย่างนี้แล้วละก็ ความคาดหวังของเรานั้น ก็คือกองทุกข์ที่สะสม นับเข้ากับกองทุกข์ที่สะสมไปเรื่อยๆ หวังในสิ่งแล้วสิ่งเล่า ก็เป็นกองทุกข์ที่ทับถมลงไป ทับถมลงสู่จิตสู่ใจของเจ้าเอง เพราะวันใดที่สิ่งเหล่านั้น เสื่อมสลายหรือพลัดพรากจากเจ้าไป ก็จะต้องเสียใจ ทุกข์ทรมานใจ ผิดหวัง
นี่แหละ คือความเจ็บปวดที่เจ้าจะได้รับ ความคาดหวังในสิ่งต่างๆ มันไม่เป็นผลเลยลูกรัก เพราะมันเป็นไปไม่ได้ มันเปลี่ยนแปลง แปรปรวน นับครั้งไม่ถ้วน ไม่ว่าสิ่งใดที่เราคาดหวังเอาไว้ มันจะต้องพบกับความผิดหวังไม่มากก็น้อย เป็นอยู่อย่างนี้ ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า เพราะความเห็นของเรา ไม่ตรงลูกรัก ความเห็นของเจ้านั้นเอนเอียง เป็นความเห็นที่หลอกตัวเอง เข้าไม่ถึงสัจจะธรรมความจริง
ขอให้ลูกรักทั้งหลาย จงใช้สติพิจารณาให้รอบครอบ หยั่งลงให้เห็นในสิ่งต่างๆ อย่างแท้จริงเลยนะลูกรัก สิ่งต่างๆ ที่พวกเจ้า ได้คิด ได้ทำ หรือได้พูดอะไรออกไป ให้ระมัดระวังให้ดี เพราะมันจะเป็นสิ่งที่ย้อนกลับมาเล่นงานตัวเจ้าเอง
สิ่งใดๆ ในโลก ตั้งอยู่ไม่ได้นานเลย ความสุขใจมีเพียงน้อยนิด ชีวิตก็ล่วงโรยใกล้มรณะไปวันๆ ไม่รู้ว่าจะจบลงที่ตรงไหน จะจบลงในขณะใดของการมีชีวิต พวกเจ้ายังเป็นผู้มีความประมาทอยู่ ประมาทในความมีความเป็นของพวกเจ้า ยึดถือความมีความเป็น ไม่ได้ให้ความสำคัญกับสัจจะธรรมความจริง ที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้า อะไรอะไรก็ดูผิดไปหมด มันผิดหวัง ผิดจากการคาดหวัง ผิดจากสิ่งที่มั่นหมายไว้ ไม่ตรงตามที่ตัวเองได้หวังไว้ ไม่ใช่เกิดขึ้นครั้งเดียว เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
นี่คือความจริงลูกรัก ลูกรักต้องตื่นได้แล้ว ตื่นขึ้นมาพัฒนาจิตพัฒนาใจตัวของเจ้าเอง ให้รู้ทันสภาวะ ในสิ่งที่เจ้าทำ ในคำที่เจ้าได้พูดออกไป ต้องรักษาสัจจะให้ได้ อย่าทำเป็นแค่สิ่งประโลมโลก หลอกลวงชาวบ้านไปวันๆ ต้องเป็นคนซื่อสัตย์ซื่อตรง ในสิ่งที่เจ้าทำและในคำที่เจ้าได้พูดออกไป เจ้าจะต้องรับผิดชอบในผลของมัน สิ่งเหล่านี้ จะเป็นการใช้ชีวิตที่เกิดมาแล้ว ไม่เสียเปล่านะลูกรัก ชีวิตของเจ้าจะต้องดีขึ้น เพราะน้อยคนนักที่จะมีความซื่อสัตย์ต่อตัวเองและผู้อื่น ชอบพูดเอาดีใส่ตน พูดจาทำลายผู้อื่น หวังประโยชน์ในตน ไม่มีการสงเคราะห์ผู้อื่น อะไรอะไรก็ขวนขวายเพื่อตน สิ่งนี้แหละ เป็นสิ่งที่จะทำให้เราได้คิด เพราะผลที่มันจะย้อนกลับมานั้น มันจะเป็นคำตอบของเจ้าเอง ในสิ่งที่เจ้าได้ทำลงไป มันจะเป็นคำตอบสำหรับเจ้า
ทุกสิ่งทุกอย่างนั้น มันจะดีได้ ก็ขึ้นอยู่กับตัวของเจ้าเอง ที่จะรู้จักคิดพิจารณา จะทำให้มันดีขึ้นมารึเปล่า หรือจะใช้ชีวิตมันเรื่อยเปื่อยไป ตายแล้วก็จบกันอย่างนั้นหรือ เกิดมาเป็นมนุษย์ทั้งที เจ้าต้องหาสิ่งที่มันดีที่สุด สิ่งที่ตายแล้วจะติดตัวเจ้าไปได้ หาสิ่งที่มันประเสริฐสูงสุด ให้ตัวของเจ้าบ้าง อย่าหลงใหลอยู่ในสิ่งที่มันประโลมโลก ที่มันกำลังหลอกลวงจิตหลอกลวงใจของเจ้า ให้หลงยึดหลงถือ หลงเข้าไปเกลือกกลั้ว หลงเข้าไปให้ความสำคัญ กับสิ่งที่มันไม่จริงแท้ เสียเวลาเปล่าๆ
ชีวิตของมนุษย์นั้นน้อยนัก ไม่กี่ปีก็ต้องตาย เวลาก็เหลือน้อยลง แต่ชีวิตยังสูญเปล่า สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเหลือ เหลือไว้แต่คำสาปแช่งนินทา ในสิ่งที่เจ้าได้ทำกัน มันเป็นผลลัพธ์ที่จะตอบสนอง ในสิ่งที่เจ้าได้ทำเหลือทิ้งเอาไว้ ถ้าเป็นผู้ทำประโยชน์แก่สังคม เป็นผู้ให้การช่วยเหลือแก่ปวงชนและสัตว์ทั้งหลาย ย่อมได้รับคำสรรเสริญ ย่อมได้รับคำยกย่อง เชิดชู เป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล เป็นสิ่งที่น่าปลื้มใจ
ลูกรักทั้งหลาย เราจะเหลืออะไรไว้ดีล่ะ ต้องคิดแล้วนะ เราเกิดกันมาเนี่ย ไม่รู้เท่าไหร่เท่าไหร่ ตายไปก็ไม่รู้เท่าไหร่เท่าไหร่ มันเป็นสิ่งที่เห็นอยู่ตำตาแท้ๆ แต่เราไม่เคยกลับมาคิดพิจารณาเลย ว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเดินไปสู่ความตาย เจ้าจะหาอะไรเพื่อตนอีกล่ะ กลับมาทบทวนและคิดกันได้แล้ว สิ่งไหนล่ะ ที่จะเป็นสิ่งที่เราพอจะยึดถือยึดมั่นเอาไว้ได้ มีมั้ย เจ้าต้องเริ่มคิดแล้วตอนนี้ ถ้าวันนี้เราทำให้ดี วันหน้าในอนาคต พวกเจ้าก็จะต้องประสบความสำเร็จในชีวิต แต่ถ้าวันนี้เราทำไม่ดี ชีวิตในภายหน้ามันก็จะผิดหวัง มีแต่ความเสียใจ และมันจะแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว
ขอให้ลูกรักทั้งหลาย จงเห็นแจ้งเห็นจริงในสิ่งทั้งปวง ว่าแท้ที่จริงแล้ว ไม่มีอะไรเป็นเรา เป็นของเราอย่างแท้จริงเลย ความตายน่ะลูกรัก ความตายที่ใกล้เข้ามา มันจะเป็นเครื่องที่รอเราอยู่ ถึงตรงนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็จบลง ไม่มีอะไรให้ทำ ไม่มีอะไรให้แก้ไขแล้ว
ขอฝากไว้ ให้ลูกรักได้คิดดู ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน ว่าชีวิตที่เหลืออยู่นี้ เรามีความผิดอะไรบ้าง สิ่งที่ไม่ดีเราก็แก้ไขซะ ทำให้มันถูก รู้จักทำเพื่อประโยชน์ท่านบ้าง อย่าทำเพื่อประโยชน์ตนอย่างเดียว รู้จักเป็นผู้ให้ เป็นผู้เกื้อกูลผู้อื่นบ้าง ช่วยเหลือสังคม แก้ผิดให้เป็นถูก ที่ถูกอยู่แล้วก็ทำให้มันดียิ่งขึ้น ให้เป็นแบบอย่างของลูกหลาน ให้ขึ้นชื่อว่า เกิดมาแล้วไม่ตายเปล่า ไม่อยู่ไปวันๆ ไม่หลงโลกไปวันๆ ขอฝากลูกรักไว้ ขอให้ได้คิดกัน
ท้ายที่สุดนี้ ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวง จงช่วยเหลือเกื้อกูล ผู้ทำความดีทั้งหลาย ผู้อยู่อย่างไม่เบียดเบียน ขอให้มีความสุข ขอให้พ้นจากทุกข์ทั้งปวง ขอให้ได้เข้าถึงมรรค ที่จะนำทางไปสู่ความสุขสันต์ เป็นความสุขชั่วนิรันดร์ ไม่ต้องมาแก่ ไม่ต้องมาตายอีก ไม่ต้องมาเวียนเกิดเวียนตาย เป็นสุขชั่วนิรันดร์ ขอให้ได้พบเป้าหมายอันแท้จริง ได้เข้าถึงความจริงแท้ ขอให้เจริญสุข ด้วยกันทุกท่านทุกคนเทอญ
  
นี่ ห รื อ นิ พ พ า น
คลิกอ่านตามลิ้งด้านล่าง
01 เรื่อง ของ ธ า ตุ (คลิกอ่าน)
02 บุญคุณที่ต้องทดแทน (คลิกอ่าน)
03 ความหลงใหลในสิ่งต่างๆ ล้วนนำมาซึ่งทุกข์ (คลิกอ่าน)
04 ชีวิตที่สูญเปล่า (คลิกอ่าน)
05 เห็นความไม่เที่ยงของสรรพสิ่ง (คลิกอ่าน)
06 สิ่งทั้งหลายทั้งปวงนำมาซึ่งทุกข์ (คลิกอ่าน)
07 เรื่องของ ขั น ธ์ ห้ า (คลิกอ่าน)
08 เรื่อง นี่หรือนิพพาน (คลิกอ่าน)
09 ธรรมมะจากหลวงปู่ ... (คลิกอ่าน)
10 สุญญตาธรรม (คลิกอ่าน)
11 ธรรมธาตุทั้งหลายทั้งปวง อันเดียวกัน สิ่งเดียวกัน ต่างแค่ความเห็น (คลิกอ่าน)

หนังสือ นี่หรือนิพพาน 29-01-2560 A5.PDF
(ต้นฉบับส่งโรงพิมพ์ ขนาด-เล่มเล็ก) (5.83 X 8.27 นิ้ว)



ไม่มีความคิดเห็น: